แพรวา ราชินีแห่งไหมไทย
.จังหวัด.กาฬสินธิ์
“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จเยี่ยมพสนิกรในอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2520ได้ทอดพระเนตรเห็นชาวผู้ไทยแต่งชุดพื้นเมือง ห่มสไบเฉียงแพรวาสีแดง
ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกลพระองค์ได้ทรงพระราชทานเส้นไหมให้แก่ชาวบ้านโพนเพื่อทอผ้าแพรวาถวาย
และโปรดรับงานทอผ้าแพรวาของชาวผู้ไทย อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์เข้าไว้ในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์และทรงโปรดให้มี
การพัฒนาลายผ้าเเละการทอผ้าไหมแพรวา จนทำให้ผ้าไหมแพรวาเป็นที่รู้จักแพร่หลาย”
ชุมชนบ้านโพน ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นชุมชนขนาดใหญ่รวมกันอยู่ถึง5หมู่บ้าน (หมู่ที่1-หมู่ที่5)
ที่นี่ยังเป็นสุดยอดของชุมชนท่องเที่ยวOTOPนวัตวิถี และ “ตลาดต้องชม”เอกลักษณ์พานิชย์ อัตลักษณ์ของชุมชน
หากมาเที่ยวบ้านโพนแนะนำให้พักอยู่กับครอบครัวชาวผู้ไทย (โฮมสเตย์) ซึ่งที่นี่มีมากกว่า 20 หลัง
สิ่งที่จะได้รับคือบรรยากาศอบอุ่นแบบพี่น้อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟถือว่าอลังการมากทั้งขบวนแห่บั้งไฟที่ประดับด้วยผ้าไหมแพรวา
ชึ่งจะจัดขึ้นราวปลายเดือนพฤษภาคม ของทุกปี
“ผ้าไหมแพรวา” เป็นผ้าพื้นเมืองหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีสีสันและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านโพน
ผู้คนที่นี่ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ การเเต่งกาย และสืบสานภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดจาก
บรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุคนและพัฒนาฝีมือด้านการทอผ้าอย่างต่อเนื่อง “ผ้าแพรวา”จึงเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มชนที่สืบเชื้อสายมาจาก กลุ่มภูไท
ผ้าแพรวา นิยมทอด้วยไหมทั้งผืน โดยปกติแล้ว หญิงสาวชาวภูไททอผ้าแพรวาไว้สำหรับห่มเป็นสไบคลุมไหล่ หรือโพกศีรษะ
ส่วนผู้ชายใช้คาดเอว มีที่กาฬสินธุ์ที่เดียว มักใช้ในโอกาสที่เป็นงานบุญ งานมงคล หรืองานประเพณีต่างๆ
แพร หมายถึง ผ้า วา หมายถึงความยาวของผ้า 1 วา คำว่า แพรวา จึงมีความหมายว่า ผ้าที่มีความยาวประมาณ 1 วา
ผ้าแพรวาในอดีตจะทอหน้าแคบ ยาว แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาต่อยอดให้เป็นผ้าทอหน้ากว้าง
ถนนสายบ้านโพน-สมเด็จ ในชุมชนบ้านโพน เราจะเห็นร้านขายผ้าไหมแพรวาทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ เรียงรายเต็มสองฝั่งถนน
“ตลาดต้องชม”เอกลักษณ์พานิชย์ อัตลักษณ์ของชุมชน ก็อยู่ที่นี่ ด้วยโจทย์เเละกติกาของบทความ “แนะนำของดีหมู่บ้านเน็ตประชารัฐ”
จะต้องมีการระบุรายละเอียดต่างๆ เช่นชื่อของฝาก สถานที่จัดจำหน่าย ความพิเศษของสินค้า และช่องทางจำหน่าย การชื้อขายฯให้ชัดเจน
เราจึงเลือก “ร้านบุญมากไหมไทย”ร้านขายผ้าที่มีแฟนเพจติดตามกว่า 8,500 คน ซึ่งคุณวิมลรัตน์ บุตรผา เจ้าของร้านได้เอื้อเฟื้อข้อมูลด้านต่างๆ
ทั้งอนุญาตให้เราได้ถ่ายรูปสินค้า ลายผ้าเเละบรรยากาศภายในร้าน
ผลิตภัณฑ์ของทางร้านมีตั้งเเต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักหมื่น ตั้งเเต่งานผ้าประยุกต์ทั่วไปจนถึงผ้าไหมเเพรวาเกรดพรีเมี่ยม ภายในร้านสวยงามสะอาดตาจัดวางสินค้าเป็นหมวดหมู่
มีให้เลือกชื้อหลากหลาย อีกทั้งมีช่องทางการขายทางโซเซียล รวมไปถึงการไลฟ์สดให้เลือกชื้อ หากเข้าไปดูในเพจ “ร้านบุญมากไหมไทย”
จะเห็นได้ว่าทางร้านมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าไหมแพรวาต่างๆมากมาย ทางร้านมีการทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ การร่วมงานเเสดงสินค้าต่างๆในระดับจังหวัดรวมถึงระดับประเทศ
ทั้งมีการชื้อผ้าไหมเเพรวาจากชาวบ้านในชุมชนบ้านโพน รายได้จากการขายก็กระจายลงไปสู่ชาวบ้าน เป็นรายได้ของคนในชุมชน
ช่างทอของทางร้านพัฒนาต่อยอดลายผ้าให้มีความหลากหลายทันยุคสมัยแฝงกลิ่นอายความเป็นคนผู้ไทยหรือภูไท
สไบคลุมไหล่ ผ้าโพกศรีษะ ผ้าคาดเอว กระเป๋า ย่าม เสื้อบุรุษ-สตรี ทางร้านมีให้เลือกชื้อเลือกชมมากมาย ผ้าทอทั้งผืนผ้าไหมแพรวา ซึ่งถือว่าเป็น “ราชินีแห่งผ้าไหม”
มีให้เลือกชื้อเป็นของฝากหรือจะสั่งทำเป็นของชำร่วยในงานพิธีต่างๆในราคาที่จับต้องได้
ส่วนสินค้าเกรดพรีเมี่ยม จะมีผ้าซิ่นมัดหมี่ภูไท ไหมบ้านต่อเชิงเเพรวา เย็บมือ ผ้าซิ่นไหมเเพรวาทอลายต่อเนื่องตามเเบบดั้งเดิม ผ้าไหมเเพรวาตัดชุดกว้าง 73 ซม.ยาว5เมตร
สำหรับตัดชุดไทยจิตรลดาได้ 1 ชุด ผ้าคลุมไหล่ไหมแพรวางานไหมบ้านทอลายพิเศษเกือบ300 ไม้ลาย รวมไปถึงชุดที่ตัดเย็บเเล้วสีแดงสดงานลายดั้งเดิมฯ
ราคานั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายเเละเส้นไหม ซึ่งบางผืนต้องใช้ทักษะความประณีตของช่างทอเป็นเวลา2-3เดือนกันเลยทีเดียว และยังสามารถเลือกชมความงดงามของผืนผ้า
ได้ทางเพจของร้านก่อนเดินทางมา อีกทั้งทางร้านยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทางโซเซียลในรูปแบบต่างๆ นี่คือหนึ่งในหลายสิบร้านผ้าไหมเเพร ในชุมชนบ้านโพน
“ บ้านโพนถิ่นภูไท ผ้าไหมแพรวา งามตาศูนย์วิจิตร
ประนีตเครื่องจักรสาน พุทราหวานเลิศล้ำ
วัฒนธรรมโบราณ อลังการบุญบั้งไฟ ศิวิไลซ์โปงลาง”
ชุมชนบ้านโพนยังมี ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวา เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ร้านขายผ้าไหมแพรวาทั้งร้านเล็กร้านใหญ่จำนวนมาก รวมถึงสหกรณ์ทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน ที่จะรวบรวมผลิตภัณฑ์ผ้าไหมแพรวาของสมาชิกใน 4 อำเภอ
ได้แก่ อำเภอคำม่วง อำเภอสมเด็จ อำเภอสหัสขันธ์ และอำเภอสามชัย เพื่อจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยมีศูนย์รวมอยู่ที่ศูนย์ศิลปาชีพบ้านโพน
มีพระบรมธาตุเจดีย์ ฐิตสีลมหาเถรานุสรณ์ ที่บรรจุอัฐิของท่านเจ้าคุณฯ (พระอริยเวที) มหาเขียน ฐิตสีโล ณ วัดรังสีปาลิวัน บ้านโพน
ให้เราเเวะกราบนมัสการเพื่อเป็นสิริมงคล มีเกษตรกรปลูกพุทราแบบกางมุ้ง รสชาติดีปลอดภัย เป็นมิตรต่อร่างกาย ที่สำคัญหอมกลิ่นนม สามารถเด็ดกินได้จากต้นได้เลย
และบ้านพัก (โฮมสเตย์)สัมผัสชีวิตเรียบง่ายพักกับครอบครัวชาวผู้ไทยทานอาหารอีสานรสแซบสุดๆ ชมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเเละผลิตผ้าทอไหมแพรวา
ที่นี่จึงถือเป็นหนึ่งในชุมชนเน็ตประชารัฐที่เหมาะะแก่การมาเที่ยว ชอป ชิม เป็นอย่างยิ่ง
การเดินทาง บ้านโพนอยู่ห่างจากอำเภอคำม่วงประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่ห่างจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ประมาณ78 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 600 กิโลเมตร
เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายภาพเเละข้อมูล คุณ วิมลรัตน์ บุตรผา ร้านบุญมากไหมไทย
บทความและภาพ โดย นายพงศ์วุฒิ เวชบุตร วิทยากรแกนนำเพื่อการใช้ประโยชน์จากเน็ตประชารัฐ รุ่นที่ 4/ผู้ขับเคลื่อนศูนย์ดิจิทัลชุมชนอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี
(ส่งประกวดในกิจกรรมแนะนำของดีหมู่บ้านเน็ตประชารัฐ)